การใช้ชีวิต ในเมืองต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

การใช้ชีวิต ในเมืองต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

📣 การใช้ชีวิต ในเมืองต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

ขึ้นชื่อว่าเป็นทำเลทองอีกแห่งของกรุงเทพฯไป

แล้ว สำหรับย่านแจ้งวัฒนะ ที่ที่เรียกได้ว่าเป็นต้น

แบบเมืองคาร์บอนต่ำ นั่นก็คือในส่วนของศูนย์

ราชการแจ้งวัฒนะนั่นเอง สำหรับชุมชนในแถบนี้

มีความเป็นอยู่และมีรูปแบบชีวิตเป็นอย่างไร วัน

นี้เราไปดูพร้อมกัน

❤ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เมืองแห่งต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ

การใช้ชีวิต ในเมืองต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

■ เพราะเหตุใดศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะจึงได้ชื่อว่าเป็นต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ?

เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยในเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย

สำหรับศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะนั้น เกิดขึ้น จาก

บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ ธพส.

ผู้บริหารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80

พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ที่เรารู้จักกันดีในชื่อ

ของศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ ได้

วางแผนเตรียมความพร้อมในด้านการใช้

พลังงานไฟฟ้าภายในศูนย์ราชการตามเป้าหมาย

การเป็นต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ ในขณะที่ผู้คน

ภายในย่านนี้มีหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม

ครอบครัว กลุ่มคนวัยทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีรูป

แบบชีวิตค่อนข้างเป็นสังคมเมืองอย่างชัดเจน

มันก็คือเต็มไปด้วยความสะดวกสบาย มีความ

ทันสมัย และยังเพียบพร้อมไปด้วยนวัตกรรม

ใหม่ๆ ที่สามารถหาได้อย่างง่ายดายในย่านนี้

การใช้ชีวิต ในเมืองต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

■ เมื่อความเป็นอยู่ในแจ้งวัฒนะ มีความเป็นสังคมเมืองอย่างชัดเจน ซึ่งฟังดูย้อนแย้ง กับความเป็นเมืองต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ แล้วมันจะเกิดขึ้นได้จริงได้อย่างไร?

เนื่องจากการวางแผนการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยาย

ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ โซน C

จำเป็นต้องมีการวางแผนเพื่อปรับปรุงพื้นที่ทั้ง

ภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นงานภูมิศาสตร์

สถาปัตยกรรม ระบบคมนาคมขนส่ง ระบบ

สาธารณูปโภค ตลอดจนระบบที่เกี่ยวข้อง

ทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่ปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่

จำเป็นต้องเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

การใช้ชีวิต ในเมืองต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

ทำให้ ธพส. ได้มีการวางแผนติดตั้งระบบผลิต

ไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งจะทำการติดตั้ง

บนหลังคาของอาคารศูนย์ราชการ

เฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ โซน C มูลค่า

โครงการนี้กว่า 49 ล้านบาท โดยในส่วนของ

การติดตั้งจะใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ PV

module ขนาด 525 วัตต์ จำนวน 1760 ชุด ซึ่ง

ทั้งหมดจะสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด

ได้ประมาณ 924 kWp และสิ่งนี้เองก็ได้

สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาศูนย์ราชการ

เฉลิมพระเกียรติแจ้งวัฒนะ ให้เป็นต้นแบบเมืองสี

เขียว คาร์บอนต่ำ อีกทั้งยังช่วยอนุรักษ์

ทรัพยากรธรรมชาติแบบยั่งยืนได้อีกด้วย

และด้วยการวางแผนพัฒนา ในเชิงการแก้ปัญหา

แบบนี้นี่เอง ทำให้ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ได้ขึ้น

ชื่อว่าเป็น ต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำอย่างที่เห็น

โดยการใช้ชีวิตของผู้คนในย่านนี้

ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือ

ไม่ใช่ปัจจัยที่จะทำให้ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะไป

ไม่ถึงคำว่าต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำแต่อย่างใด

นั่นเอง เรียกว่าการดำเนินชีวิตและไลฟ์สไตล์ของ

ผู้คนหรือชุมชนในย่านแจ้งวัฒนะ เป็นไลฟ์สไตล์

ชีวิตที่หลายคนใฝ่ฝันถึง เพราะที่นี่ครบครันทั้ง

การคมนาคม ความสะดวกสบาย และไลฟ์สไตล์

ที่ลงตัวนั้นเอง

ปัจจุบันและอนาคตของย่านแจ้งวัฒนะ

ปัจจุบันและอนาคตของย่านแจ้งวัฒนะ

📣 ปัจจุบันและอนาคตของย่านแจ้งวัฒนะ

สำหรับย่านแจ้งวัฒนะในวันนี้ คงไม่ต้องพูดถึง

เรื่องอดีตที่ผ่านมา เพราะในปัจจุบันมีการพัฒนา

ในด้านต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย จากชานเมืองที่ไร้

ซึ่งความเป็นชุมชน กลับกลายเป็น “ทำเลทอง” ที่

เป็นที่ต้องการของใครหลายคน ไปดูกันว่า ย่าน

แจ้งวัฒนะในปัจจุบัน เป็นอย่างไร และในอนาคต

จะมีการพัฒนาไปในทิศทางใดบ้าง

📮แจ้งวัฒนะในปัจจุบัน

ไม่ว่าในอดีตแจ้งวัฒนะจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่

สำหรับปัจจุบันนี้ เรียกได้ว่านี่คือหนึ่งในย่านฮอต

ฮิตที่สุดของกรุงเทพฯนนทบุรี โดยเฉพาะอย่าง

ยิ่ง ช่วงทางแยกปากเกร็ดสี่แยกคลองประปา ซึ่ง

ถือได้ว่าเป็นไข่แดงของ ย่านแจ้งวัฒนะ นนทบุรี

ซึ่งที่นี่มีทั้งศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ

และศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ศูนย์การแสดงสินค้า

และการประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี พร้อมด้วย

ชุมชนขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในเมืองทองธานี

และเป็นพิกัดที่กำลังบูมที่สุด อีกทั้งยังมีโอกาส

ขยายตัวอย่างต่อเนื่องไปได้อีกไกลในอนาคต

ด้วย

ปัจจุบันและอนาคตของย่านแจ้งวัฒนะ

หากจะกล่าวว่าพื้นที่โดยรอบศูนย์การค้าเซ็นทรัล

พลาซาแจ้งวัฒนะ และโดยรอบศูนย์ราชการ

แจ้งวัฒนะ รวมถึงพื้นที่ในโครงการเมืองทองธานี

เป็นพื้นที่ที่มีความโดดเด่น และเป็นที่รู้จัก ในแง่

ความเป็นย่านแหล่งงานขนาดใหญ่ ย่านพาณิชย์

และที่อยู่อาศัย ก็คงจะไม่ผิดนัก

ในส่วนของพัฒนาที่เกิดขึ้นสำหรับปัจจุบัน เรื่อง

รถไฟฟ้าสายสีชมพู แครายมีนบุรี ก็คือเส้นหลัก

สำหรับแจ้งวัฒนะ โดยจะมีจุดจอดสถานีตั้งอยู่

บนถนนแจ้งวัฒนะหลายสถานี และผ่านในหลาย

พื้นที่ของถนนสายนี้อีกด้วย ทำให้บริษัทพัฒนา

อสังหาริมทรัพย์รายใหญ่หลายราย รีบปักธง

จับจองเพื่อเปิดตลาดคอนโดมิเนียมมากขึ้น

ปัจจุบันและอนาคตของย่านแจ้งวัฒนะ

จากเดิมที่เราเห็น โครงการคอนโดมิเนียมย่าน

แจ้งวัฒนะ ส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในเฉพาะ

โครงการเมืองทองธานี ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ทุก

โครงการของคอนโดมีเนียมก็ตาม และก็ไม่ใช่

ทุกโครงการจะประสบความสำเร็จ เพราะคอนโด

ที่เปิดขายในราคาสูง ก็มักจะไม่ได้รับการตอบรับ

จากผู้คนในย่านนี้จนต้องยกเลิกโครงการและคืน

เงินไปตราบใดที่ยังไม่มีรถไฟฟ้าคนก็ยังเดินทาง

ด้วยรถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ และทุก

อย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อมีโครงการรถไฟฟ้าสาย

สีชมพูเกิดขึ้น นั่นก็คือ จุดเปลี่ยน ของการเลือกที่

อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม ของแจ้งวัฒนะ

นั่นเอง

แน่นอนว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย

มีนบุรี ซึ่งเปิดให้บริการในปี 2564 ตามแผน

พัฒนาระบบรถไฟฟ้ารางเดียว ซึ่งมีจุดต้นทาง

เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สถานีศูนย์ราชการ

นนทบุรี ที่ได้เปิดให้บริการไปแล้วนั้น ก็ได้สร้าง

ความคึกคักให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ และผู้

ต้องการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม ใน

ย่านแจ้งวัฒนะเป็นอย่างมาก

ปัจจุบันและอนาคตของย่านแจ้งวัฒนะ

📮แจ้งวัฒนะในอนาคต

ในอนาคตของย่านนี้แน่นอนว่ามีจุดเด่นเรื่องการ

พัฒนาโครงการรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจาก

สายสีชมพู จะมีการพัฒนาเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสาย

สีน้ำตาล แครายลำสาลี ที่สถานีนี้ด้วย ซึ่งจะวิ่ง

มุ่งหน้าไปทางติวานนท์ เข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะ ผ่าน

ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า

สายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ที่ทางแยกหลักสี่ เชื่อม

ต่อกับระบบขนส่งมวลชนสายสีเขียว

หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่สถานีวงเวียนหลักสี่

ตลอดแนวเส้นทางจะวิ่งไปตามถนนรามอินทรา

ผ่านทางพิเศษฉลองรัชบริเวณแยกวัชรพล จนถึง

ทางแยกเมืองมีนแล้ววิ่งเข้าสู่เขตมีนบุรีตาม

ลำดับ ไปตามถนนแนวสีหบุรานุกิจ จนถึงสะพาน

ข้ามคลองสามวา แล้วเลี้ยวขวาเข้าคลองแสน

แสบ ข้ามถนนรามคำแหงสุขาภิบาล 3 สิ้นสุด

สถานีปลายทางที่แยกรามคำแหงร่มเกล้า ซึ่งจุด

นี้เองจะเป็นจุดที่สถานีเชื่อมต่อกับสายสีส้ม

ศูนย์วัฒนธรรม- มีนบุรี

จะเห็นได้ว่า ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคต ของ

แจ้งวัฒนะ ที่ถึงแม้ว่าโครงการรถไฟฟ้าจะยังไม่

แล้วเสร็จดี แต่ทุกคืนที่ล้วนถูกจับจองและพัฒนา

เป็นโครงการพาณิชย์ ทั้งอสังหาริมทรัพย์

สำนักงาน และศูนย์การค้า รวมไปถึงโครงการที่

อยู่อาศัยในรูปแบบอื่นๆอีกมากมาย ตามแนว

เส้นรถไฟฟ้า จนทำให้แจ้งวัฒนะใกล้เป็นขุมทอง

ของนักลงทุน และเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับการ

อยู่อาศัยของผู้คนอีกด้วย

การเติบโตของ เมืองทอง-แจ้งวัฒนะ ดินแดนที่ไม่ควรมองข้ามอีกต่อไป

การเติบโตของ เมืองทอง-แจ้งวัฒนะ ดินแดนที่ไม่ควรมองข้ามอีกต่อไป

📣 การเติบโตของ “เมืองทอง-แจ้งวัฒนะ” ดินแดนที่ไม่ควรมองข้ามอีกต่อไป

เมื่อพูดถึงการเดินทางไปยังเมืองทองหรือ

แจ้งวัฒนะ ในสมัยอดีต ก็คงเป็นเรื่องยากและไม่

น่าอภิรมย์สำหรับใครหลายๆ คน เพราะนอกจาก

Landmark ดังกล่าว จะอยู่ชานเมืองแล้ว ยังเดิน

ทางได้ยากลำบาก เนื่องจากไม่ค่อยมีระบบการ

เดินรถขนส่ง ไม่มีรถไฟฟ้า ไม่มี MRT สายรถเมล์

น้อยสุด แค่พูดถึงเรื่องการเดินทาง หรือยาน

พาหนะที่จะใช้สำหรับไปยังเมืองทองแจ้งวัฒนะก็

เป็นเรื่องยากเย็นแล้ว หลายคนถึงขั้นที่บอกว่าถ้า

หากไม่มีธุระจำเป็น ก็คงไม่ได้ย่างกรายไป

เมืองทองหรือแจ้งวัฒนะโดยเด็ดขาด ทำให้ตน

ดังกล่าว กลายเป็นเรื่องสะดวกของคนมีรถส่วน

ตัวเท่านั้น

การเติบโตของ เมืองทอง-แจ้งวัฒนะ ดินแดนที่ไม่ควรมองข้ามอีกต่อไป

แต่สำหรับปัจจุบัน เราคงต้องมาย้อนมอง

เมืองทองแจ้งวัฒนะ” กันใหม่ เพราะนอกจาก

การขยายตัวของการคมนาคม หรือพูดง่ายๆ ว่า

เมื่อมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายมาถึงแจ้งวัฒนะ ก็

สามารถขจัดปัญหาดังกล่าวข้างต้นไปจนหมดสิ้น

ไม่เพียงเท่านั้น แถบนี้ยังมีการพัฒนาในด้าน

ต่างๆ ตามมาอีกมากมาย กระทั่งทำให้ราคา

ที่ดิน ถีบตัวขึ้นสูงขึ้นได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ดังนั้น

สำหรับใครที่กำลังมองหาทำเลลงทุน เมืองทอง

แจ้งวัฒนะ ก็เป็นทำเลที่คุณไม่ควรมองข้าม ไปดู

กันว่าเพราะอะไร

การเติบโตของ เมืองทอง-แจ้งวัฒนะ ดินแดนที่ไม่ควรมองข้ามอีกต่อไป

📮การเดินทางสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้าสาย

สีชมพู ซึ่งยิงยาวตลอดเส้นแจ้งวัฒนะ และ

นอกจากนี้แล้วยังจะมีการพัฒนาการเดินทางทาง

เรือและทางอากาศในแถบนี้ให้คล่องตัวมากยิ่ง

ขึ้นในอนาคต

📮ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และศูนย์

รวมความบันเทิง กิน ช้อป เดินเที่ยว ครบจบที่

แจ้งวัฒนะ

📮นอกจากจะเป็นศูนย์กลางราชการ ยังมีบริษัท

ทั้งเล็กและใหญ่ขยายกิจการเปิดการลงทุน

ทำให้เกิด Office building แถบนี้มากขึ้น

เพียงเหตุผล 3 ข้อหลัก ซึ่งถือได้ว่าเป็นปัจจัย

สำคัญ ของการลงทุนและการมองหาที่อยู่อาศัย

ก็สามารถตอบโจทย์ได้ในส่วนของอุปสงค์

อุปทาน แทบไม่ต้องสงสัยว่าทำไมราคาที่ดินถึง

พุ่งสูง ดังนั้นการลงทุนในแถบนี้ จึงเป็นเรื่องที่น่า

จับตามอง แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าจุดไหนคือจุดที่

ควรลงทุน เมื่อถนนแจ้งวัฒนะก็ยาวไปถึงนนทบุรี

ไปดูคำตอบกันเลย

การเติบโตของ เมืองทอง-แจ้งวัฒนะ ดินแดนที่ไม่ควรมองข้ามอีกต่อไป

👇ชี้เป้า แลนด์มาร์ค สำคัญในการลงทุน”แจ้งวัฒนะ

🏠 รอบเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และโซนเมืองทอง

ธานี เป็นที่ทราบกันดีว่าถนนแจ้งวัฒนะ และถนน

แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด เริ่มตั้งแต่บริเวณสถานีวัด

พระศรีมหาธาตุ ยาวไปสิ้นสุดที่แยกปากเกร็ด

รวมกันประมาณ 11 กิโลเมตร ซึ่งแต่ละจุดจะมี

ความแตกต่างและมีศักยภาพที่แตกต่างกันออก

ไป ดังนั้นบริเวณรอบศูนย์ราชการจึงไม่เหมาะที่

จะลงทุน เนื่องจากไม่สามารถสร้างตึกสูงได้

เพราะอยู่ใกล้สนามบินดอนเมืองจนเกินไป แต่

โซนที่ห่างออกมาอีกอย่าง รอบเซ็นทรัล

แจ้งวัฒนะ และโซนเมืองทองธานี เป็นจุดที่เหมาะ

สำหรับการสร้างตึกสูง ทำเลบริเวณนี้ จึงสามารถ

ตีกรอบล้อมสี่เหลี่ยม สำหรับการลงทุนก็ถือได้ว่า

เป็นสิ่งที่เหมาะมาก

🏠 ปากเกร็ด นนทบุรี

แม้ว่าจะเป็นพื้นที่ที่รวมไปด้วยศูนย์กลางราชการ

และไม่เหมาะสำหรับการสร้างตึกสูงอย่างที่ได้

กล่าวไป แต่ก็ยังไม่ควรทิ้ง ก็อย่างไรก็ตาม

สำหรับผู้ประกอบการ sme หรือการทำธุรกิจ

ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดกลาง ก็ยังคงสามารถ

เล็งพื้นที่บริเวณนี้ สำหรับการเปิดร้าน หรือการ

ทำธุรกิจได้อยู่นั่นเอง